วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2558

วัดไหนกล้ารับ

การบวชครั้งแรก ในการเปิดรับอย่างเป็นทางการ ของสำนักสงฆ์ตามหลักพระภูมี ที่แม่ชีเมี้ยนนำมา ก็เรียกได้ว่าถูกลองของซะแล้ว

พระจำนวน ๙ รูป ที่บวชเข้ามา ครึ่งหนึ่งเป็นมะเร็ง ที่หมอทิ้ง องค์หนึ่งตอนมาแจ้งว่าเป็นอัลกอฮอร์ริซึ่ม บวชเสร็จไล่เรียงไปมา บอกว่ามีรถพ่วงมาอีกสองโรค นั่นคือ มะเร็งตับตอนนี้ตับแข็งแล้ว แถมโรคเก๊าต์มาอีกต่างหาก

อีกองค์หนึ่ง ติดยาเสพติดมา ประมาณยี่สิบปีแล้ว

เหลืออีกองค์ พ่อเป็นคนป่วยมากินยาสมุนไพร เห็นลูกไม่แข็งแรง เดินยังต้องประคอง ก็เลยอยากให้บวช ถามไปถามมา ท่านบอกว่าเป็นโรคเอดส์

พอไล่เรียงไปยังบรรดาชี ก็มีมะเร็งมาบวช ๒๑ คน ส่วนใหญ่ก็ประเภทหมอทิ้งแล้วทั้งนั้น

หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า ที่ไหนๆก็อ้างว่าเป็นแหล่งบุญ วัดดังเกจิเด่น พุทธคุณสูง เมตตาสูง ถามไหน วัดไหนที่จะกล้ารับคนเหล่านี้ไว้

นี่แหละเป็นเครื่องชี้ ว่าเมื่อเจอของจริง อะไรจึงเป็นของแท้

และก็เป็นการพิสูจน์ว่า แผ่นดินของแม่ชีเมี้ยน ไม่ธรรมดา ธรรมของพระภูมีที่นำมา ใครเรียนแล้วทำ เป็นบุญช่วยตนได้จริง

ผลแห่งการทำถูก ผลถูกย่อมเกิด ผ่านไปแค่สัปดาห์แรก พระทุกองค์ ล้วนแล้วแต่มีพลานัยที่กลับมาดี แม้นแต่พระเอดส์ที่เดินต้องพยุง วันนี้ สามารถแบกถุงปูน ทำงานทั้งวันได้ ยาเสพติด ก็ไม่มีอาการลงแดง อัลกอฮอร์ริซึ่ม ก็ไม่มีอาการสั่น หรือผลของการขาดเหล้าให้เห็น

ยิ่งไปกว่านั้น หนทางที่หลวงพ่อนิพนธ์ชี้ให้พระและชีเดิน นั่นคือ ก้มหน้าก้มตาปฏิบัติวินัยไป ใช้ธรรมนำเดิน ไม่ต้องไปให้ความสำคัญว่า ตัวเราเป็นโรคอะไร ถึงเวลาทุกคนก็ทานสมุนไพรเหมือนๆกัน .. แล้วดีเอง

สิ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า หนทางที่รวดเร็ว ถูกต้อง และเฉียบขาด ในการใช้หลักสมุนไพรพระภูมี นั่นคือ การใช้ธรรมล้างกรรม เป็นหลัก แล้วใช้สมุนไพรล้างโรค เดินตาม

อีกไม่นาน เมื่อผลของการกระทำปรากฎเป็นรูปธรรม .. หนทางนี้ ย่อมมีคนอยากที่จะเดินตามอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้น หลวงพ่อนิพนธ์กล่าวว่า การบวชก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ใครอยากบวชก็ให้บวช ต้องดูคุณสมบัติกันก่อน

สิ่งหนึ่งที่อยากจะชี้ให้เห็น นั่นคือ บุญ ไม่ใช่ของสาธารณะ

แม้นว่าที่ใด จะลอกเลียนพฤติกรรมดั่งเช่นที่ทำในสำนักสงฆ์สวนสมุนไพรไปทำ อาจจะเคร่งกว่าด้วย เชื่อเถอะมันไม่เป็นบุญ หยุดโรคมะเร็ง ไม่ได้แน่

นี่แหละความสำคัญของพระพุทธเจ้า ที่เป็นต้นอำนาจบุญ อยากได้บุญ จึงต้องดั้นด้นไปหา

การกระทำดั่งที่หลวงพ่อนิพนธ์สอน แม่ชีเมี้ยนตรัสว่า ก็เพื่อให้ได้คุณสมบัติ ได้โอกาส เมื่อพระพุทธเจ้าอุบัติยามใด เราท่านที่ทำตาม ก็จะได้มีคุณสมบัติเป็นพุทธบริษัทได้ นั่นเอง

ก็ของเขา เป็นของสงวนสิทธิ์ ตราบใดยังไม่มีพระพุทธเจ้า ... ไม่ต้องพูดเรื่องพระอรหันต์เลย... ไม่มีทาง ใครพูด ก็อวดอ้าง อุตริ อย่างแน่นอน ... เพราะศาสน์ เขาต้องมีองค์สาม คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

วันใดที่พระพุทธเจ้าประกาศตน นั่นแลเราท่านจะได้เห็นพระอรหันต์ สาวกของพระพุทธเจ้า เดินกันสลอน

และก็เป็นวันที่พระพุทธเจ้าจะสังคยานาศาสนา พวกที่เอาศาสนามาหากิน แอบอ้าง ถ้าไม่รีบเลิก ถอดผ้าเหลืองออก ก็จะได้เห็นว่า บุญญาธิการของศาสนาเป็นเช่นไร ทำถูกก็ผลถูกมหาศาล ทำผิด ก็ทวีคูณเช่นกัน ... เรียกว่าถอดจีวรกันแทบไม่ทันแล้วกัน เหลือพระที่ทรงวินัยเท่านั้นแล

หลวงพ่อนิพนธ์จึงกล่าวว่า โลกุตระ จึงเรียกสงฆ์ของพระพุทธเจ้าว่า ขันติสงฆ์ แลเรียกสงฆ์ที่แอบอ้างเหล่านั้นว่าสมมุติสงฆ์

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า อยากรู้ที่ไหนเป็นแหล่งบุญ ก็เอาคนทุกข์ไปถวายซิ เกจิใดที่ว่าแน่ ที่ไหนที่ว่าบุญหนัก เอาเอดส์ไปถวาย บุญย่อมคลี่คลายทุกข์ได้ เห็นแต่ปฏิเสธกันแทบไม่ทัน หรือรับก็ตายหมด

พระเจ้าที่ว่าแน่ๆ ยังเผ่นป่าราบ ก็เพราะมันไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีจริง มนุษย์มันสร้างของมันมา เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจเท่านั้นเอง มันจึงช่วยไม่ได้

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44