วันศุกร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2558

พระพุทธเจ้า

พวกนอกศาสนา ทำวินัยของพระพุทธเจ้าไม่ได้ จึงพยายามยกพระพุทธเจ้าว่าเลิศเลอ จนสูงเสียดฟ้า ... ไม่มีเกศ ก็บอกว่ามีเกศ.. เป็นคนธรรมดา ก็บอกว่าเป็นคนวิเศษ เกิดมาเดินได้เลย มีดอกบัวรองรับ ...

แม่ชีเมี้ยน ชี้ให้เห็นว่า เหตุก็ด้วย ทำให้คนทั่วไป เมื่อพิจารณาตน ก็จักเห็นว่า เราไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก็คงทำตนเยี่ยงพระพุทธเจ้าไม่ได้ เป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้

จากคำสอนของแม่ชีเมี้ยน ในวันงาน จักเห็นว่า พระพุทธเจ้ามีมาทุกยุคทุกสมัย ... แลที่สำคัญ ท่านตรัสสอนว่า พระพุทธเจ้านั้น เป็นคนธรรมดา เป็นกษํตริย์ก็มี เป็นคนจนก็มี ...

อย่าไปเชื่อคัมภีร์เหล่านั้น จนทำให้เราท่านสร้างภาพพระพุทธเจ้าว่า ต้องมีรัศมีส่องประกาย ต้องมีผิวพรรณ เหลืองอร่ามเป็นทอง มีเกศ ...

หลวงพ่อนิพนธ์จึงชี้ให้เห็นว่า ยามใดที่พระพุทธเจ้าทรงอุบัติ เราท่าน ก็จักเห็นพระองค์ทรงเป็นเหมือนคนทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้น ผิวก็อาจจะคล้ำดำ เพราะตากแดด เดินธุดงค์เป็นวินัย ยามชรา หนังตาก็หย่อน ผิวก็เหี่ยว

หากแต่พระพุทธเจ้าและสาวกทุกพระองค์ของท่าน แม้นจะแก่สักฉันใด ก็เป็นเพียงตัวเลย สังขารยังเป๊ะ ตาไม่ฝ้าฟาง เดินหลังตรง สามารถทรงวินัย ฉันมื้อเดียว เงินทองไม่รับ รถเรือไม่ขึ้น ไปไหนก็เดิน มีธุดงค์เป็นวัตร .. ได้สบาย ที่สำคัญ ไม่มีโรค

ไม่มีหรอกหมอชีวก ที่ไปรักษาพระพุทธเจ้า มันแต่งขึ้นมาเพราะรู้ว่า สักวันหนึ่ง หมู่คนของพวกที่แต่งขึ้นมาต้องเป็นโรค ความจะแตก พระพุทธเจ้าแลสาวก เขาพึงตน .. ไม่พึ่งหมอ

และคำหนึ่งที่แม่ชีเมี้ยนทรงวิพากย์วิจารณ์ศาสนาของไทยในปัจจุบัน คือ "มันเป็นศาสนาพูด ดีแต่พูด" หากแต่ศาสนาของพระพุทธเจ้า นั้นเป็น "ศาสนาทำ" รักวินัยยิ่งชีพ

หลวงพ่อนิพนธ์ เคยอรรถาธิบายความต่างของศาสนาพูด กับ ศาสนาทำไว้ว่า มันต่างที่วินัย ... พวกถือศีล เขาจึงต้องมีข้ออนุโลม ในขณะที่วินัยของพระภูมี ถือเป็นเด็ดขาด ผิดไม่ได้ มีชีวิตเป็นเดิมพัน

เราท่านจึงได้ยินเรื่องเล่าของหลวงพ่อนิพนธ์เสมอ ในยามธุดงค์ฺ แม้นจะอาพาธสักฉันใด ก็ทานได้มื้อเดียว แลต้องเดิน ขึ้นรถไม่ได้ ไม่ไหวพระรูปอื่นก็ช่วยกันประคองไป

จึงไม่แปลกว่า พระของแม่ชีเมี้ยนทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นพระโคดม ในอดีต หรือ พระในยุคหลวงพ่อนิพนธ์ ที่อาพาธแต่ไม่ยอมขึ้นรถ แลเมื่อมีพระนั่งรถมาจอดนิมนต์ให้ขึ้น แล้วไม่ขึ้น พอขึ้นรถก็ได้ยินเสียงตระโกนแว่วมาว่า ... "พวกนี้มันบ้า"

ไม่มั่นใจ ก็อย่ารับวินัย อย่าวางสัจจะ หากไม่แน่ใจ ก็เริ่มจากระยะเวลาน้อยๆ ทำได้ค่อยเพิ่มไปทีละน้อย ... จำไว้ เดิมพันคือชีวิต

หลวงพ่อนิพนธ์ เคยอุปมาให้ฟัง การทำนิสัย ก็เสมือน การปลูกหญ้าในพื้นที่แปลงใหญ่ ขอเพียงให้ปลูกต้นแรกได้ แลไม่ตาย เดี๊ยวมันก็โต แล้วกระจายไปเต็มแปลง ...

นิสัยกรรม แล นิสัยธรรม เป็นเฉกเช่นเดียวกัน ขอเพียงเริ่มจากหนึ่ง มันก็จะเพิ่มสองสาม ตามมา

ไม่ต้องแปลกใจในคำที่ได้ยินบ่อยๆ ทานเหล้าแค่แก้วครึ่งแก้วไม่ติดหรอก ในไม่ช้า เราท่านก็เป็นนักเลงเหล้า แค่ลองสูบครั้งเดียว ไม่เป็นไรหรอก ไม่นานก็เป็นสิงห์อมควัน ฉันใดก็ฉันนั้น

ที่สำคัญ ไม่จำเป็นว่าทุกคนต้องทำตาม ใครฟัง พิจารณาแล้วเชื่อ ก็มาทำ .. แล้วดูผลจากการกระทำของตน นี่จึงเรียกหลักพระภูมีว่า "หลักเหตุ และผล"

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44