วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

อาตี๋สักมังกร


ตอนเล็กๆ ได้ยินเพลิน พรหมแดน ร้องเพลงอาตี๊สักมังกร ฟังแล้วชอบใจ แต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งในความหมายเท่าใดนัก

มาวันนี้ เห็นภาพคนไข้มากเข้า และฟังเรื่องความอยากได้ของมนุษย์ ที่มาพานพบศาสนามากเข้า ก็เลยทำให้เห็นและเข้าใจเนื้่อเพลงนี้ได้ดียิ่งขึ้น ช่างเปรียบเปรยได้ดีนัก

ตัวอย่างคนไข้หญิงอาวุโสท่านหนึ่ง อายุก็วัยชราเข้าช่วงสุดท้ายของชีวิต ที่เวียนว่ายมาจนถึงหลวงพ่อนิพนธ์จนได้ในบั้นปลาย

อาการที่เธอเป็น คือ มะเร็งระยะสุดท้าย ทำทุกอย่างที่หมอสั่ง จนหมอทิ้ง ไม่รวมกับอาการโรคอื่นๆ

หลวงพ่อนิพนธ์ บอกว่า ความประสงค์ ของเธอคืออะไร เธอจึงยิงคำถามแก่หลวงพ่อนิพนธ์ คือ อยากหาย หลวงพ่อนิพนธ์ก็ตอบว่า ก็ต้องใช้เวลา อดทนในการทานสมุนไพร

เธอถามต่อ กี่วันหาย หลวงพ่อนิพนธ์ตอบว่า ถ้าจะเอาเร็ว ก็บวชเป็นชี ตัดกิเลสซิ ทำได้ไหม รับรองหายแน่และเร็ว เธอตอบฉันบวชไม่ได้หรอก

ถ้างั้นช้าลงมาหน่อย ก็มาพักฟื้นที่ชมรมสักระยะ ให้พ้นช่วงวิกฤตก่อน เธอตอบว่า ฉันเป็นคนนอนยาก นอนผิดที่นอนไม่หลับ คงจะมาพักที่นี่ไม่ได้หรอก

ถ้างั้น ก็มาสัปดาห์ละสองครั้ง โอ๊ย ฉันเดินทางไม่ไหวหรอก มันไปไหนมาไหนลำบาก แค่อาทิตย์ละครั้งก็แย่แล้ว

ถ้างั้น ก็เอาสมุนไพรไปทานที่บ้าน โดยเฉพาะยามะพร้าว ทานทุกวัน ทานให้ได้มากๆ หน่อย เสียงย้อนมา ไม่ไหวหรอก สมุนไพรหลวงพ่อ มันทานยาก

มังกร ๙ หัว หรือ ความหวังที่ตั้งไว้ซะใหญ่โต มันจึงกลายเป็นไส้เดือนในท้ายที่สุด ด้วยประการฉะนี้

หนทางที่ไม่มีวันสำเร็จ ไม่มีผู้ใดสำเร็จ เขาบอกกล่าวอย่างไร เราท่านทำแบบไม่มีขาดตกบกพร่อง ไม่บ่นซักคำ วันเวลาผ่านไป สภาพเลวร้ายยิ่งทวีขึ้น

พอมาเจอทางเลือกสมุนไพรแม่ชีเมี้ยน เงื่อนไขมากมาย ติดโน่นติดนี่ ธุรกิจบ้างหล่ะ ความจำเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ล้วนสำคัญทั้งหมดทั้งสิ้น ... แล้วชีวิตของตน ไร้ราคา ไร้ค่าปานนั้นเชียวหรือ

แค่ควบคุมตน ไม่พูด รักษากรรมฐาน ไม่เล่นโทรศัพท์ ไม่ติดต่อใคร ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ยังไม่ยอม

แล้วความฝันดั่งมังกร ๙ หัว มันจะเป็นได้โดยวิธีใด เพราะแค่อาจารย์สักไม่กี่เข็ม ก็ทนไม่ไหวแล้ว ไม่ทนเจ็บ ไม่อดทน อดกลั้น เป็นได้ก็แค่ไส้เดือน

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงกล่าวว่า แพ้ชนะ อยู่ที่เราท่าน ช้าเร็วก็อยู่ที่พฤติกรรม ท่านช่วยได้แค่เพียงให้วัตถุดิบสมุนไพร และธรรมคำสอน นอกนั้น อยากรอดก็ต้องทำเอง ใครก็ช่วยไม่ได้

เจอแต่คนใจร้อน เอาแต่ใจ ทานปุ๊บให้หายปั๊บ ไม่ยอมเจ็บ ไม่ยอมทน ... พระพุทธเจ้าพบ ยังต้องหนีให้ไกล ไม่สนองนิสัย สันดาน อย่างแน่นอน เพราะคนเหล่านี้ ไม่เอาสัจจะธรรม ความเป็นจริง

หลวงพ่อนิพนธ์ อุปมาคนเหล่านี้ เหมือนปลูกไม้วันนี้ จะกินพรุ่งนี้ ฉันใดก็ฉันนั้น เป็นไปไม่ได้ ต้องรอเวลากว่าผลจะเกิด แม้นเป็นพริก ยังต้องรอ สามสิบวันเลย

ทานไป จึงควรสำรวจพฤติกรรมของตนไป หากร่างกายดีวันดีคืน ก็แสดงว่าพฤติกรรมที่ทำนั้นถูก หากอืดเป็นเรือเกลือ สามวันดี สี่วันไข้ หยุดทานขาดสมุนไพร อาการออก หลวงพ่อนิพนธ์บอก นั่นก็เป็นสัญญาณว่า พฤติกรรมบางสิ่งบางอย่างของเราท่าน มันไม่ถูก และเป็นอุปสรรคใหญ่ ต้่องรีบแก้ไข ... แต่ตรงไหนหล่ะ นี่แหละคือความสำคัญของศาสนา ของพระ เพราะเป็นผู้รู้ ที่จะมาชี้ให้เห็นว่า นิสัยใดของเราท่าน ที่ต้องแก้

พระพุทธกาล ไม่ต้องรอบรู้การบ้าน การเมือง เพราะนั่นคนรู้มันเยอะ แต่ที่ต้องรู้ คือ เรื่องของชีวิต เพราะคนทั่วไปเขาไม่รู้ .... จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมพระของแม่ชีเมี้ยน ที่เดินรอยตามพุทธกาล จึงไม่ดูทีวี หนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ ...

ไปฟังพระ ไปฟังคำสอน ก็เพื่อฟังเรื่องของชีวิต หาให้เจอ จึงเรียกจับตนค้นตน จะพ้นทุกข์ ก็เมื่อเห็นนิสัยที่เป็นอุปสรรคของตนแล้ว ยกออกได้ เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ก็อุปมาเหมือนยกหินขวางตาน้ำออก อยากรู้นัก โรคอะไรจะมาเหลือ

นี่แหละคือคำตอบที่ว่า ทำไมมาต้้งนาน ยังไม่หายสักที ก็ยังไม่คิดจะจับตน เวลาก็ผ่านพ้นไปเปล่าประโยชน์ เพราะพฤติกรรมมันไม่เปลี่ยนนั่นเอง

หลวงพ่อนิพนธ์ จึงย้ำเสมอว่า พระภูมีวางธรรม ... มีจุดประสงค์เดียว คือ อยากได้คนดี ไม่หวังเงินทอง ลาภยศ สักการะ สรรเสริญใดๆทั้งสิ้น ... เราท่าน เดินไปทางนั้นหรือยัง เพราะนั่นคือทางรอดทางเดียวที่ทรงทิ้งไว้ให้ช่วยตน

ติดต่อสั่งซื้อสินค้า หาโปรโมชั่น Sesamix-Z และ สารสกัดเซซามินสูตรที่ดีที่สุด โทรหาเรา 086 6O4 7O44